รู้ไว้ก่อนขาย! MFG EXP BBE และวิธีจัดการวันหมดอายุสินค้าในร้านโชห่วย
หากคุณเป็นเจ้าของร้านโชห่วยหรือร้านขายของชำ คุณคงเคยเจอตัวย่อภาษาอังกฤษบนบรรจุภัณฑ์สินค้า อย่าง MFG, EXP หรือ BBE แต่คุณรู้ความหมายและความสำคัญของตัวย่อเหล่านี้มากแค่ไหน? การไม่เข้าใจความหมายของตัวย่อเหล่านี้อาจทำให้คุณจัดการสินค้าผิดพลาด ส่งผลให้เกิดการขาดทุนโดยไม่จำเป็น
การจัดการสินค้าในร้านให้มีประสิทธิภาพนั้น เริ่มต้นจากความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับวันหมดอายุและตัวย่อต่างๆ บนฉลากสินค้า บทความนี้จะอธิบายความหมายของตัวย่อสำคัญ ได้แก่ MFG คืออะไร EXP คืออะไร และ BBE คืออะไร รวมถึงวิธีการจัดการสินค้าในร้านเพื่อไม่ให้ขาดทุนจากปัญหาสินค้าหมดอายุ
MFG / MFD คืออะไร
MFG คืออะไร? MFG ย่อมาจาก Manufacturing Date หรือ Manufactured Date หมายถึง วันที่ผลิตสินค้า ในบางผลิตภัณฑ์อาจใช้คำย่อ MFD ซึ่งมีความหมายเดียวกัน วันที่ผลิตเป็นข้อมูลสำคัญที่บอกว่าสินค้านั้นผลิตขึ้นเมื่อไร
การรู้ว่า MFG คืออะไร จะช่วยให้คุณสามารถคำนวณอายุของสินค้าได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ฉลากไม่ได้ระบุ วันหมดอายุไว้อย่างชัดเจน แต่ระบุเป็นระยะเวลาที่สามารถเก็บรักษาได้หลังจากวันผลิต เช่น "ควรบริโภคภายใน 1 ปีหลังวันผลิต"
วิธีอ่านและเข้าใจวันที่ผลิตบนฉลากผลิตภัณฑ์
วันที่ผลิตบนฉลากผลิตภัณฑ์อาจแสดงในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนได้ ต่อไปนี้เป็นรูปแบบทั่วไปของการแสดงวันที่ผลิต
- อาหารและเครื่องดื่ม: อาจเกิดการเน่าเสีย มีเชื้อราหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการแพ้
- ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: อาจสูญเสียประสิทธิภาพในการรักษา หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่อาจเป็นอันตราย
- เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: อาจเกิดการระคายเคืองผิวหนัง เนื่องจากส่วนผสมเสื่อมสภาพหรือมีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์
วิธีตรวจสอบวันหมดอายุบนฉลากผลิตภัณฑ์
การตรวจสอบวันหมดอายุบนฉลากผลิตภัณฑ์ทำได้โดยมองหาคำว่า "EXP" หรือ "Expiry Date" ตามด้วยวันที่ รูปแบบการแสดงวันหมดอายุมักจะคล้ายกับวันที่ผลิต คือ
- แบบวัน/เดือน/ปี (DD/MM/YYYY): เช่น EXP: 15/06/2024
- แบบเดือน/วัน/ปี (MM/DD/YYYY): เช่น EXP: 06/15/2024
- แบบปี/เดือน/วัน (YYYY/MM/DD): เช่น EXP: 2024/06/15
บางผลิตภัณฑ์อาจแสดงเฉพาะเดือนและปีเท่านั้น เช่น "EXP: 06/2024" ซึ่งหมายความว่าสินค้าจะหมดอายุในวันสุดท้ายของเดือนมิถุนายน 2024
BB / BBE คืออะไร
BB ย่อมาจาก Best Before และ BBE ย่อมาจาก Best Before End หมายถึง "ควรบริโภคก่อนวันที่" ซึ่งแตกต่างจาก EXP คืออะไร ที่หมายถึงวันหมดอายุโดยสิ้นเชิง
"ควรบริโภคก่อนวันที่" เป็นวันที่ผู้ผลิตแนะนำว่าสินค้าจะมีคุณภาพดีที่สุดหากบริโภคก่อนวันดังกล่าว หลังจากวันนี้ คุณภาพของสินค้าอาจลดลง เช่น รสชาติ เนื้อสัมผัส หรือสีอาจเปลี่ยนไป แต่ยังสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยในระยะเวลาหนึ่ง
ความแตกต่างระหว่าง BB / BBE และ EXP / EXD
เข้าใจความแตกต่างระหว่าง BB/BBE และ EXP คืออะไร เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการสินค้าในร้าน
- BB / BBE (ควรบริโภคก่อนวันที่)
- EXP / EXD (วันหมดอายุ)
- เกี่ยวกับคุณภาพของสินค้า
- หลังวันที่ระบุ สินค้ายังสามารถบริโภคได้แต่คุณภาพอาจลดลง
- มักใช้กับสินค้าที่มีอายุการเก็บรักษานาน เช่น อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง
- เกี่ยวกับความปลอดภัยของสินค้า
- หลังวันที่ระบุ ไม่ควรบริโภคสินค้าเนื่องจากอาจไม่ปลอดภัย
- มักใช้กับสินค้าที่เน่าเสียง่าย เช่น นม เนื้อสัตว์
วิธีตรวจสอบและพิจารณาคุณภาพผลิตภัณฑ์ก่อนการบริโภค
แม้ว่าสินค้าจะยังไม่ถึงวันหมดอายุแต่การตรวจสอบคุณภาพก่อนการบริโภคหรือจำหน่ายเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าที่มีการระบุ "ควรบริโภคก่อนวันที่" ต่อไปนี้เป็นวิธีการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์
- สังเกตลักษณะภายนอก: ตรวจดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงของสี การบวม การรั่วซึม หรือมีเชื้อราหรือไม่
- ตรวจสอบกลิ่น: สินค้าที่มีกลิ่นผิดปกติอาจเสื่อมคุณภาพหรือเน่าเสียแล้ว ตรวจสอบเนื้อสัมผัส: สินค้าที่มีเนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป เช่น เหนียวหรือแข็งผิดปกติ อาจไม่เหมาะสำหรับการบริโภค
- สินค้าที่ผ่านวันหมดอายุ (EXP / EXD) แล้ว โดยทั่วไปไม่ควรรับประทานหรือนำมาจำหน่าย เนื่องจากอาจไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค และการจำหน่ายสินค้าหมดอายุถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สินค้าบางประเภท เช่น ยา อาจยังคงมีประสิทธิภาพหลังจากผ่านวันหมดอายุไปแล้วในระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาที่หมดอายุแล้ว เนื่องจากประสิทธิภาพอาจลดลงและอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
- สินค้าที่ผ่าน "ควรบริโภคก่อนวันที่" (BB / BBE) แล้ว ยังสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยในระยะเวลาหนึ่ง หากไม่มีสัญญาณของการเน่าเสีย อย่างไรก็ตาม คุณภาพของสินค้าอาจลดลง เช่น รสชาติหรือเนื้อสัมผัสอาจเปลี่ยนไป
- จัดเรียงสินค้าตามวันหมดอายุ: วางสินค้าที่ใกล้หมดอายุไว้ด้านหน้า และสินค้าที่มีวันหมดอายุยาวกว่าไว้ด้านหลัง
- แยกสินค้าตามประเภท: จัดเรียงสินค้าตามประเภทเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบและการหยิบสินค้า
- ติดป้ายแสดงวันหมดอายุ: ใช้ป้ายหรือสติกเกอร์แสดงวันหมดอายุของสินค้าให้ชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าที่ใกล้หมดอายุ
- ตรวจสอบวันหมดอายุ: ตรวจสอบวันหมดอายุของสินค้าทุกครั้งก่อนรับสินค้า
- ปฏิเสธสินค้าที่ใกล้หมดอายุ: ไม่ควรรับสินค้าที่ใกล้หมดอายุหรือมีระยะเวลาการจำหน่ายสั้นเกินไป
- ทำข้อตกลงกับผู้จัดจำหน่าย: ทำข้อตกลงเกี่ยวกับการคืนหรือแลกเปลี่ยนสินค้าที่ใกล้หมดอายุ
- ติดป้ายให้ความรู้: ติดป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายของตัวย่อต่างๆ เช่น MFG คืออะไร และ EXP คืออะไร
- แจ้งลูกค้าเมื่อสินค้าใกล้หมดอายุ: แจ้งให้ลูกค้าทราบหากสินค้าใกล้หมดอายุและอาจมีการลดราคา
- ให้คำแนะนำในการเก็บรักษา: ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาสินค้าเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
- ใช้สมุดบันทึก: บันทึกรายการสินค้า วันที่รับเข้า และวันหมดอายุในสมุดบันทึก
- ใช้แอปพลิเคชันบนมือถือ: ใช้แอปพลิเคชันที่ออกแบบมาสำหรับการจัดการสินค้าในร้านค้า
- ใช้โปรแกรมตาราง: ใช้โปรแกรมเช่น Microsoft Excel หรือ Google Sheets ในการบันทึกและติดตามสินค้า
- ใช้ระบบ POS: ระบบ POS (Point of Sale) ช่วยในการบันทึกการขาย การตรวจสอบสต็อก และการติดตามวันหมดอายุของสินค้า
- ตั้งค่าการแจ้งเตือน: ตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมดอายุหรือมีจำนวนน้อย
- วิเคราะห์ข้อมูลการขาย: ใช้ข้อมูลการขายเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและปรับปริมาณการสั่งซื้อให้เหมาะสม
- จัดทำรายงานสินค้าคงเหลือ: จัดทำรายงานสินค้าคงเหลือเป็นประจำเพื่อติดตามสถานะของสินค้าในร้าน
สินค้าที่ผ่านวันที่ "ควรบริโภคก่อน" หรือ "หมดอายุ" ยังรับประทานได้หรือไม่?
เมื่อพูดถึงวันหมดอายุและ "ควรบริโภคก่อนวันที่" มักมีคำถามว่าสินค้าที่ผ่านวันที่ระบุไปแล้วยังสามารถรับประทานได้หรือไม่ คำตอบคือ
การจัดการสินค้าในร้านโชห่วยและร้านขายของชำ
การจัดการสินค้าในร้านอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนจากสินค้าหมดอายุ ต่อไปนี้เป็นวิธีการจัดการสินค้าในร้าน
วิธีการจัดเรียงและตรวจสอบสินค้าในร้าน
วิธีการจัดเรียงและตรวจสอบสินค้าในร้าน
เทคนิคในการตรวจสอบตัวย่อบนผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสอบวันหมดอายุและตัวย่ออื่นๆ บนผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ
- กำหนดตารางการตรวจสอบ: จัดตารางการตรวจสอบสินค้าเป็นประจำ เช่น ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
ใช้ระบบแจ้งเตือน: ใช้ระบบที่จะแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมดอายุ เช่น ระบบ POS ที่มีฟังก์ชันนี้
ฝึกอบรมพนักงาน: ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจสอบวันหมดอายุและวิธีการอ่านตัวย่อต่างๆ
ข้อควรระวังในการซื้อและขายสินค้า
การซื้อและขายสินค้าอย่างระมัดระวังจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนและรักษาความพึงพอใจของลูกค้า
ข้อควรระวังในการซื้อสินค้าจากผู้จัดจำหน่าย
เมื่อซื้อสินค้าจากผู้จัดจำหน่าย ควรระวัง
วิธีการแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับตัวย่อบนผลิตภัณฑ์
การให้ข้อมูลแก่ลูกค้าเกี่ยวกับตัวย่อบนผลิตภัณฑ์จะช่วยสร้างความไว้วางใจ
การบันทึกและติดตามสินค้า
การบันทึกและติดตามสินค้าอย่างเป็นระบบจะช่วยให้การจัดการสินค้าในร้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการบันทึกและติดตามสินค้าในสต็อก
การบันทึกและติดตามสินค้าในสต็อกทำได้หลายวิธี
เทคนิคในการใช้ระบบจัดการสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การใช้ระบบจัดการสินค้าที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนจากสินค้าหมดอายุ
การเข้าใจความหมายของตัวย่อบนผลิตภัณฑ์ เช่น MFG คืออะไร EXP คืออะไร และ BBE คืออะไร เป็นพื้นฐานสำคัญในการจัดการสินค้าในร้านให้มีประสิทธิภาพ ด้วยความรู้นี้ คุณสามารถจัดการวันหมดอายุของสินค้าได้อย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงในการขาดทุนจากสินค้าหมดอายุ และรักษาความพึงพอใจของลูกค้า
Makro POS เป็นระบบจัดการร้านค้าที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าของร้านโชห่วยและร้านขายของชำสามารถจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Makro POS และวิธีการนำไปใช้ในร้านของคุณ สามารถติดต่อเรา เรายินดีให้คำปรึกษาและช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน
รับปรึกษา ทุกปัญหา โชห่วย ฟรี !!
ติดต่อเรา ได้ที่ Inbox แอดมาที่ Line @mitrtaeshohuay
หรือโทร. 02-099-1555 เวลา 07:00-22:00 น. ทุกวัน